จากกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรที่ จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบในหลักการโครงการก่อสร้างถนนริมชายแดน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร-อ.อุ้มผาง จ.ตาก ระยะทาง40 กม. โดยมอบให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับไปพิจารณาปัญหาในเรื่องมวลชนและเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการก่อสร้างถนนริมชายแดน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร-อ.อุ้มผาง จ.ตาก หรือการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1117 (สายคลองลาน-อุ้มผาง) เคยถูกระงับไปแล้วเมื่อปี 2548 สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีกลุ่มภาคประชาชนนำโดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียรออกมาคัดค้านนั้น
นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ตนจะไม่ยินยอมให้มีการก่อสร้างถนนดังกล่าวในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของกรมอุทยานฯ เด็ดขาด เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นผืนป่าตะวันตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ป่าอย่างมาก หากมีการตัดถนนเข้าไปก็จะกระทบกับสภาพแวดล้อม ทำให้พื้นที่ป่าหมด และสัตว์ป่าหายแน่นอน ที่สำคัญบริเวณดังกล่าวถือเป็นต้นน้ำของแม่น้ำแม่กลอง และที่ผ่านมาคน จ.ตากเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะถ้ามีการตัดถนนจาก อ.อุ้มผางมายัง จ.กำแพงเพชร ก็จะทำให้ อ.เมือง ตาก และ อ.แม่สอด ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของจ.ตากลดความสำคัญลงไป
“ ถนนนี้มีไม่ได้เด็ดขาด เพราะสภาพป่าเสียหาย ที่ผ่านมามีการตัดถนนเส้นนี้และทำเป็นถนนลาดยางแล้วส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไป ต้องมาคิดกันว่าการตัดถนนดังกล่าวมีผลดีผลเสียอย่างไร และมีความจำเป็นเพียงพอหรือไม่ ดูตัวอย่างจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ยังมีสเน่ห์และมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก ก็เพราะความคดเคี้ยวของเส้นทาง และความยากลำบากในการเข้าถึงจึงเป็นสเน่ห์สำคัญที่ทำให้มีคนอยากเดินทางไปเยือน อ.อุ้มผางก็น่าจะคิดถึงจุดนี้และดึงมาเป็นจุดขายคือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่แม้เข้าถึงลำบาก แต่ก็มีสเนห์และยังคงความเป็นธรรมชาติมีทรัพยากรธรรมชาติ สภาพป่าเขา ป่าไม้และสัตว์ป่าที่สมบูรณ์และสวยงาม”นายมโนพัศ กล่าว
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอะไร เพราะเขาเคยมีการศึกษามาแล้ว และไม่ควรมีถนนสายนี้เลย โดยตนจะทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป ว่าการสร้างถนนคลองลา-อุ้มผางมีความไม่เหมาะสมอย่างไร และเห็นว่าหากรัฐบาลอยากจะสร้างถนนเพื่อลดระยะเวลาการเดินทางก็มีแนวทางอื่นที่เหมาะสมมากกว่าคืออาจจะเจาะเป็นอุโมงค์ลอดภูเขาไปเลยก็ได้ แม้จะใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่น่าจะกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยกว่า.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น