ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ทีมงาน เซน นครแม่สอด ข่าวประชาสัมพันธ์ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ รัฐบาลเห็นสมควรประกาศขยายเวลาการไว้ทุกข์ จากเดิม 15 วัน เป็น 30 วัน ตั้งแต่ 25 ต.ค 56 ถึง 23 พ.ย 56 ประกาศ ณ วันที่ 25 ต.ค.56//ตอนนี้ทางทีมงาน เซน นครแม่สอด รับสมัครงานด่วนหลายอัตรา ติตตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ E-mailnacornmaesot@gmail.com และ facebookของทีมงาน//“กิจกรรมจิตอาสาหมายถึง..ช่วยคนอื่นที่มีปัญหาโดยใช้สติปัญญา แรงกาย และเวลาของเรา ด้วยความเต็มใจ โดยปรารถนาให้เขาหลุดพันจากปัญหา โดยที่เราไม่หวังผลตอบแทน.....” หลักในการทำโครงการจิตอาสาสำหรับน้อง ๆ เยาวชน จากคุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ศพ 'แมนเดลา' ถึงบ้านเกิด ทำพิธีฝังวันนี้

แอฟริกาใต้เคลื่อนขบวนนำศพนายเนลสัน แมนเดลา ถึงบ้านเกิดในเมืองคูนูแล้ว และเตรียมทำพิธีฝังอย่างเป็นทางการภายในวันนี้
 
ศพของนายเนลสัน แมนเดลา ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2536 เดินทางถึงสนามบิน "เอ็มธาธา" ในจังหวัดอีสเทิร์น เคป ท่ามกลางการอารักขาอย่างสมเกียรติจากกองทัพแอฟริกาใต้ ขณะที่ประชาชนจำนวนมาก ต่างร้องรำทำเพลงเพื่อไว้อาลัยให้กับนายแมนเดลา ตลอดสองข้างทางที่มีการเคลื่อนศพจากสนามบินไปยังเมืองคูนู ซึ่งเป็นบ้านเกิด และสถานที่ฝังศพของรัฐบุรุษผู้นี้
 
สำหรับพิธีศพวันสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านเกิดของนายแมนเดลาที่เมืองคูนู ในวันนี้ จะมีแขกผู้มีเกียรติราว 4,500 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกครอบครัว และผู้นำประเทศต่างๆ เดินทางไปร่วมไว้อาลัย ก่อนที่ศพจะถูกนำไปฝังยังสุสานของครอบครัว โดยรัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศว่าจะอนุญาตให้แขกเพียง 450-500 คนเท่านั้น ที่ได้เข้าไปร่วมพิธีฝังศพในขั้นตอนสุดท้ายของวันนี้
 
พิธีกรรมดังกล่าวนับเป็นการสิ้นสุดการไว้อาลัยให้กับการจากไปของนายแมนเดลา ที่จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นเวลา 10 วัน หลังจากนายแมนเดลา ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่บ้านพักในนครโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา รวมสิริอายุได้ 95 ปี
 
นายแมนเดลา ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกในฐานะสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ และสีผิวด้วยสันติวิธี หลังจากที่เขาถูกจำคุกเป็นเวลานาน 27 ปี ก่อนที่แอฟริกาใต้จะยอมยกเลิกกฎหมายเหยียดสีผิว และทำให้นายแมนเดลา ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศในที่สุด
 
สำหรับพิธีศพของนายแมนเดลาในวันสุดท้าย จะจัดขึ้นตามประเพณีท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงการร้องเพลง และอ่านบทกวีสดุดีคุณงามความดี และความสำเร็จในชีวิตของนายแมนเดลา โดยงานนี้นอกจากคาดว่าจะมีประธานาธิบดีจากประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา รวมถึงนายกรัฐมนตรีจากหลายประเทศทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานแล้ว เจ้าฟ้าชายชาร์ล รัชทายาทลำดับที่สองของอังกฤษ ทรงมีกำหนดการจะเดินทางมาเป็นเกียรติในงานนี้ด้วยเช่นกัน

นายอำเภอแม่สอด เดินทางไปร่วมต้อนรับพระสังฆราชชื่อดังของรัฐมอญ

 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.56 นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด นางสายสมร ศรีสุวรรณ วัฒนธรรมจังหวัดตาก และ นายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ ประธานหอการค้าตาก เดินทางไปร่วมงานต้อนรับพระสังฆราชาของรัฐมอญ พระโจผิ่ว สะญาด่อ  ที่วัดเจดีย์ทองจังหวัดเมียวดี
         ทั้งนี้พระโจผิ่ว สะญาด่อ เดินทางจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยเครื่องบินสายการบินนกแอร์ มาลงยังสนามบินอำเภอแม่สอด จากนั้นเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด ไปยังวัดเจดีย์ทองดังกล่าว โดยคณะจากแม่สอดทั้งหมดได้ร่วมงานถวายภัตตาหาร และจัดพิธีต้อนรับและทำพิธีเรียกขวัญ มีคณะศรัทธาของจังหวัดเมียวดีและจากอำเภอแม่สอด มาร่วมงานจนเต็มศาลาวัด ส่วนคณะของทางการเมียนมาร์ประกอบด้วย นายติ๊ดไหน่ อู ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี และนางเมียะ ติ่นติ่น ประธานหอการค้าเมียวดี
         สำหรับการประสานความร่วมมือทางวัฒนธรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการริเริ่มหลังจากที่ทางวัฒนธรรมจังหวัดตาก ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้จัดทัวร์ไหว้พระ 9 วัด โดยมีการไหว้พระทั้งวัดไทยและวัดพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากฝ่ายพม่า การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นแนวทางทางด้านวัฒนธรรม เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558.

Credit:  เดลินิวส์

ม.อุบลฯมอบปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตให้”หมอซินเทีย” อุทิศตนช่วยคนเจ็บชายแดนแม่สอด

สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มอบปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้ พญ.ซินเทียค่า แพทย์ผู้เสียสละช่วยประชาชนท่ามกลางภัยสงครามกลางเมืองประเทศเมียร์มาร์ ในงานพระราชทานปริญญาบัตร 18 ธ.ค.นี้ พร้อมมอบรางวัล “รัตโนบล” ให้ 2 นักการศึกษาที่อุทิศตนช่วยสังคม
         รศ.ดร.นงนิตย์ ธีระวัฒนะสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวถึงการจัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรประจำปีการศึกษา 2555 ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.ศกนี้ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวน 2,658 คน ระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน 202 คน รวมเป็นบัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งสิ้น 2,860 คน
       สำหรับปีการศึกษานี้ วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้มติอนุมัติให้แพทย์หญิงซินเทียค่า (Dr. Cynthiakah) ซึ่งเป็นตัวอย่างของแพทย์ผู้เสียสละความสุขส่วนตน ทำงานดูแลผู้อพยพจากภัยสงคราม และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาส ท่ามกลางความขัดแย้งของชาติพันธุ์และความขาดแคลนของเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จึงเหมาะสมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ด้วย
       สำหรับประวัติแพทย์หญิงซินเทียค่า เป็นชาวกระเหรี่ยง เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2502 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยย่างกุ้งเมื่อปี 2528 เมื่อรัฐบาลทหารพม่าทำรัฐประหารในปี 2531 แพทย์หญิงซินเทียค่า ได้อพยพมาอยู่ในค่ายผู้อพยพอพยพบ้านแม่หละ ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
556000016054403 
      รวมทั้ง ได้ตั้งแม่ตาวคลินิก ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาร์ที่มีความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ ความเชื่อ อุดมการณ์ และภูมิหลัง ที่เจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อและเจ็บป่วยจากการสู้รบด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และยังมีปัญหาการขาดแคลนด้านภาวะทางโภชนาการในเด็ก แต่ไม่ย่อท้อได้ให้การช่วยเหลือผู้อพยพเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่ชาติและนานาชาติ สมควรได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่างในครั้งนี้        ในคราวเดียวกันนี้ สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ยังมีมติมอบรางวัลรัตโนบล ซึ่งเป็นราชทินนามของพระครูวิโรจน์รัตโนบล (บุญรอด สมจิตต์) อริยสงฆ์สายวิปัสสนากรรมฐานในอดีต เพื่อเชิดชูเกียรติคุณแก่ผู้ที่ประกอบคุณงามความดีจนเป็นที่ประจักษ์สมควรแก่การยกย่อง โดยในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลดังกล่าว 2 ท่านคือ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ยุวัฒน์ วุฒิเมธี ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบายการพัฒนาประเทศหลายประการ
       ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหารมูลนิธิปฏิบัติธรรมพระโพธิสัตว์กวนอิม จังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการการกองทุนสงเคราะห์ครอบครัวเด็กยากจนในชนบท ผู้ก่อตั้งและบริหารสมาพันธ์องค์การพัฒนาชุมชนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมสตรีพัฒนาประเทศไทย สมาคมอาสาพัฒนาชุมชน สมาคมอาชีพการเกษตรก้าวหน้าสิงห์ทองเป็นต้น
       อีกคนคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วรรณวไล อธิวาสน์พงศ์ อดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มีบทบาทร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมจัดทำหลักสูตรจุลชีววิทยา และหลักสูตรเคมี ฟิสิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและสาธารณสุขศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
       นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แก่ชุมชน โรงเรียน ครู และนักเรียน กลุ่มโรงเรียนรอบมหาวิทยาลัย กลุ่มโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22
       ด้วยคุณูปการที่เสียสละมุ่งมั่นอุทิศตนถึงพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม เป็นประโยชน์ต่อสังคม วงการศึกษา และต่อมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลทั่วไปและเหมาะสมได้รับรางวัลดังกล่าวประจำปีนี้
Credit by Manager

ปภ.ประกาศ เชียงใหม่ น่าน เลย ตาก กลายเป็นเขตภัยพิบัติหนาว

  เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ออกประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ภัยหนาว) ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เลย ตาก น่าน และเชียงใหม่ รวมทั้งสิ้น 21 อำเภอ 47,983 ครัวเรือน
         ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับทางจังหวัด จัดส่งอุปกรณ์เครื่องกันหนาวไปแจกจ่ายให้แก่เด็ก คนชรา ผู้มีฐานะยากจน อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนผ้าห่มกันหนาวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ 200,000 ผืน และกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย 100,000 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว
         หากประชาชนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยหนาว สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

Credit:  เดลินิวส์

อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตาก พรรคเพื่อไทย นำเสื้อแดงเปิดปราศรัยโจมตี กปปส.-ปชป.

กลุ่มคนเสื้อแดงในอำเภอแม่สอด
กลุ่มคนเสื้อแดงในอำเภอแม่สอด

ข่าวแม่สอด ตาก - วันที่ 10 ธันวาคม 2556 อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยนำเสื้อแดงปราศรัยหน้าศาลสมเด็จพระเนรศวรมหาราช ชายแดนแม่สอด โจมตี กปปส.-ปชป.ทำบ้านเมืองวุ่นวาย ก่อนประกาศขอลงสนามเลือกตั้งตากเขต 2 อีกรอบ
         ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตากว่า กลุ่มคนเสื้อแดงในอำเภอแม่สอดกว่า 20 คน รวมทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายวราทิต ไชยนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต 2 พรรคเพื่อไทย (บุตรชายนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดตากและภาคเหนือ) ที่สอบตกครั้งที่แล้ว รวมตัวหน้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขตเทศบาลนครแม่สอด ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศยุบสภา
         จากนั้นใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง และให้แกนนำผลัดกันปราศรัยถึงสถานการณ์ทางการเมือง เรียกร้องให้กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ยอมรับการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประเทศชาติมีทางออก
         นายวราทิต และนายก่อเกียรติ ทรัพย์สาร แกนนำผู้ชุมนุม โจมตีว่า พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ และสถาบันการศึกษา เดินขบวนชุมนุมประท้วง สร้างความสับสนวุ่นวายให้แก่ประเทศชาติ ไม่ยอมรับกติกาสังคมและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งไม่ยอมพัฒนาบ้านเมือง มีความคิดล้าหลัง มีความคิดอนุรักษนิยม ทำให้ประเทศชาติไม่เดินไปข้างหน้า
         รายงานข่าวแจ้งว่า การชุมนุมครั้งนี้นายวราทิตยังเปิดตัวที่จะลงสมัคร ส.ส.ตาก เขต 2 อีกสมัยด้วย
556000015907401
Credit by Manager

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นิวยอร์กร่วมไว้อาลัยแด่ เนลสัน แมนเดลา บุคคลสำคัญของโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่7 ธ.ค.ว่ามหานครนิวยอร์กเมืองที่ใหญ่ที่สุดและวุ่นวายที่สุดในสหรัฐร่วมจัดงานไว้อาลัยการจากไปของบุคคลสำคัญของโลกอย่างเนลสัน แมนเดลาโดยที่ศาลาว่าการเมืองและสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ(ยูเอ็น)มีการลดธงลงครึ่งเสาพร้อมกันนี้ นายไมเคิลบลูมเบิร์กนายกเทศมนตรีก็ได้ออกมารณรงค์ให้ชาวนิวยอร์กทุกคนร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ด้วย
นอกจากนี้ย่านฮาเร็มของนิวยอร์กซึ่งมีประชากรส่วนมากเป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกันได้มีการจัดงานร่วมไว้อาลัยแมนเดลาเช่นกันเนื่องจากแมนเดลาและภรรยาของเขาเคยเดินทางมาเยือนย่านดังกล่าวเมื่อปี2533อีกทั้งยังมีชาวนิวยอร์กอีกจำนวนหนึ่งพากันมารวมตัวกันที่หน้าสถานกงสุลแอฟริกาใต้ประจำนครนิวยอร์กหรือแม้กระทั่งหลังการประกาศว่าแมนเดลาถึงแก่อสัญกรรมก็ยังมีผู้คนมารวมตัวที่หน้าภัตตาคารอาหารของแอฟริกาใต้ในย่านบรูกลินเพื่อไว้อาลัยการจากไปของแมนเดลาชาวนิวยอร์กยังขึ้นข้อความไว้อาลัยในจอโฆษณาย่านไทมส์มแควร์เพื่อแสดงความโศกเศร้าต่อการจากไปของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้อีกด้วย

ประวัติชีวิตและการต่อสู้ของ เนลสัน แมนเดลา 
โดย เนลสัน แมนเดลา เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ในครอบครัวชาวเทมบู ซึ่งพูดภาษาโซซา ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางฟากตะวันออกของแหลมเคปของแอฟริกาใต้ เดิมมีชื่อว่า มาดิบา ต่อมาครูในโรงเรียนได้ตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้เขาว่า แมนเดลา
ต่อมาพ่อของเขาซึ่งเป็นที่ปรึกษาของตระกูลผู้ปกครองชาวเทมบู ได้เสียชีวิตขณะที่เขามีอายุได้ 9 ขวบ เขาจึงได้รับการชุบเลี้ยงจากรักษาการผู้สำเร็จราชการเมืองเทมบู จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2484 เมื่อมีอายุ 23 ปี เนลสัน แมนเดลา ได้หนีจากการถูกจัดให้แต่งงานแบบคลุมถุงชน หลบไปอยู่ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ก่อนจะเข้าเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยวิทส์วอเทอแรนด์ ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกัน และที่นี่ทำให้เขาได้พบเจอผู้คนจากทุกเชื้อชาติ ได้รับความคิดแบบเสรีนิยม และความคิดต่อสู้เพื่อชาวแอฟริกัน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเหยียดผิว การถูกกระทำแบบสองมาตรฐาน ซึ่งผลักดันให้เขากลายเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
โดยในปี พ.ศ. 2486 เขาได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคสภาแห่งชาติแอฟริกัน หรือเอเอ็นซี และต่อมาได้ร่วมก่อตั้งสันนิบาตยุวชนเอเอ็นซี อีกทั้งเขาได้ร่วมกับเพื่อน โอลิเวอร์ แทมโบ ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายในเมืองโจฮันเนสเบิร์กในปี พ.ศ. 2495 รณรงค์ต่อต้านระบอบปกครองที่เหยียดผิวของพรรคคนผิวขาว ที่กดขี่ชาวผิวดำซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ จนทำให้ในปีพ.ศ. 2499 แมนเดลาถูกแจ้งข้อหากบฏพร้อมกับนักเคลื่อนไหวอีก 155 คน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องเขาหลังสอบสวนอยู่นาน 4 ปี
ต่อมาได้มีการออกกฎหมาย Pass Laws ฉบับใหม่ซึ่งจำกัดเขตอยู่อาศัยและทำมาหากินของคนผิวดำ ทำให้กระแสต่อต้านการเหยียดผิวได้ขยายตัวไปทั่วแอฟริกาใต้ ขณะที่พรรคเอเอ็นซีก็ถูกประกาศให้เป็นกลุ่มเถื่อนในปี พ.ศ. 2503 ทำให้ เนลสัน แมนเดลาต้องหลบลงใต้ดิน อย่างไรก็ดี กระแสการต่อต้านลัทธิเหยียดผิวได้รุนแรงขึ้นจนถึงที่สุดเมื่อตำรวจได้สังหารหมู่ชาวผิวดำ 69 คนในเมืองชาร์ปวิลล์ในปีเดียวกัน
เนลสัน แมนเดลา ซึ่งขณะนั้นเป็นรองประธานเอเอ็นซี ได้เปิดปฏิบัติการวินาศกรรมทางเศรษฐกิจจนกระทั่งถูกจับในที่สุด และเขาถูกแจ้งข้อหาก่อวินาศกรรม และพยายามโค่นล้มรัฐบาลด้วยวิธีการรุนแรง โดยระหว่างการพิจารณาคดีที่เมืองริโวเนีย แมนเดลาได้ประกาศความเชื่อของเขาในเรื่องประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเท่าเทียมว่า
“ผมเชิดชูอุดมคติเรื่องสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพ ที่ซึ่งคนทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ และได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือสังคมอุดมคติที่ผมปรารถนาจะไปให้ถึง เป็นอุดมคติที่ผมพร้อมจะอุทิศชีวิตให้”
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2507 เขาถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตบนเกาะร็อบเบนเป็นเวลา 18 ปี ก่อนถูกย้ายมายังเรือนจำโพลส์มัวร์บนแผ่นดินใหญ่ในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งขณะที่เขาถูกจองจำอยู่นั้น พวกเยาวชนตามเมืองต่าง ๆ ของชนผิวดำยังคงต่อสู้กับการปกครองโดยคนผิวขาวส่วนน้อยต่อไป จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ทางฝั่งของ โอลิเวอร์ แทมโบ สหายของแมนเดลา ผู้ลี้ภัยในต่างประเทศ เขาได้เริ่มรณรงค์ในระดับสากล เรียกร้องให้ปล่อยตัวมิตรร่วมอุดมการณ์ในปี พ.ศ. 2523  โดยมีการจัดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาเวมบลีย์ในกรุงลอนดอนในปี 2531 ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 72,000 คน อีกหลายล้านทั่วโลกรับชมทางโทรทัศน์และร่วมร้องเพลงเพื่อให้ปลดปล่อยเนลสัน แมนเดลา
โดยกระแสเรียกร้องนี้ ทำให้บรรดาผู้นำโลกเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อระบอบเหยียดผิวของแอฟริกาใต้ ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 แล้ว จนในที่สุด ประธานาธิบดี เอฟ ดับเบิลยู เดอ เคลิร์ก ก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันจากทั่วโลกได้ และเลิกสั่งแบนพรรคเอเอ็นซีในปี พ.ศ. 2533 พร้อมกับปล่อยตัว เนลสัน แมนเดลา
ในปี พ.ศ. 2536 เนลสัน แมนเดลา ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และต่อมาชาวแอฟริกาใต้ทุกผิวสีได้ออกเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก ทำให้ เนลสัน แมนเดลาได้รับเสียงโหวตท่วมท้นให้เป็นประธานาธิบดีในวันที่ 10 พฤษภาคม 2537 ซึ่งเขาได้ปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวหรือชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ และได้รับความยกย่องจากนานาชาติสำหรับการอุทิศตนเพื่อการประสานไมตรีทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ จนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542 เขาได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และได้เป็นรัฐบุรุษอาวุโส ซึ่งเขายังคงอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับเรื่องสิทธิมนุษยชนและให้ความรู้เรื่องการติดต่อของโรคเอดส์จนกระทั่งอายุ 85 ปี ก่อนจะขอเกษียณเนื่องจากปัญหาสุขภาพ
และถึงแม้ว่า ณ วันนี้ เนลสัน แมนเดลา จะถึงแก่อสัญกรรมแล้ว หลังจากป่วยด้วยโรคปอดและเกิดอาการแทรกซ้อนเรื้อรังมาอย่างอย่างนาน กระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่เขาก็ยังคงเป็นรัฐบุรุษของโลก และนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในหัวใจของคนทั่วโลกตลอดกาล

บริษัทยักษ์ใหญ่ HP เตรียมปลดพนักงานกว่า 1000 คน

 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2556 เว็บไซต์ดิอินดิเพนเดนท์ของอังกฤษ รายงานว่า ฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือ HP บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีฐานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ได้ประกาศเตรียมปลดพนักงานกว่า 1,100 ตำแหน่งในอังกฤษ เนื่องจากกระแสความต้องการคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปที่ตกต่ำลง
         โดยสหภาพแรงงานของ HP ในอังกฤษ เผยว่า HP จะลดจำนวนพนักงานลงภายในต้นปี 2557 เนื่องจากความต้องการคอมพิวเตอร์ที่ตกต่ำลงในระดับโลก และผู้ใช้ได้หันไปนิยมใช้อุปกรณ์แท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งการปลดพนักงานในครั้งนี้ จะส่งผลให้มีพนักงานถึง 600 คนในเบรกเนล เกือบ 500 คนในแวร์ริงตัน และอีก 23 คนในเชฟฟีลด์ ที่จะต้องเปลี่ยนสภาพกลายเป็นคนว่างงาน
         ด้าน เอียน ท็องส์ จากสหภาพแรงงานของ HP เผยว่า สหภาพจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อลดจำนวนการปลดพนักงานในครั้งนี้ พร้อมทั้งประณามว่าข่าวร้ายนี้เปรียบเสมือนค้อนที่ทุบลงไปยังฝ่ายไอทีของบริษัท และเป็นเหมือนของขวัญที่เลวร้ายสำหรับคริสต์มาสนี้เลย
         ทั้งนี้ สำหรับ HP ที่ปัจจุบันมีพนักงานในฐานที่อังกฤษกว่า 15,000 คน ได้เผยในรายงานแถลงว่า การประกาศปลดคนงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานระดับโลกซึ่งได้ถูกประกาศมาแล้วตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2555 และได้มีการปรับปรุงล่าสุดในการประชุมเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ทางตลาดในปัจจุบัน และความกดดันทางธุรกิจของ HP ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมงานตากสินหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก ประจำปี 2556 – 2557

 ด้วย จังหวัดตากร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก และเหล่ากาชาดจังหวัดตาก ได้กำหนดจัดงานตากสินมหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก ประจำปี 2556 – 2557 ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2557 ณ บริเวณศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สืบสานวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น

ในการจัดงานตากสินมหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก ประจำปี 2556 – 2557 จังหวัดตากได้กำหนดให้มีพิธีการสำคัญต่างๆ ดังนี้
1. พิธีวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
2. พิธีเปิดงานตากสินมหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก ประจำปี 2556 -2557
3. พิธีอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2557 “TAK COUNT DOWN FESTIVAL 2014”
4. พิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2557

          จึงขอเชิญชวนทุกท่าน เข้าร่วมพิธีการสำคัญต่างๆ ในงานตากสินมหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก ประจำปี 2556- 2557 ในวันและเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งขอเชิญชวนอุดหนุนสลากกาชาดการกุศลจังหวัดตาก ในราคาฉบับละ 50 บาท รายได้มอบให้เหล่ากาชาดจังหวัดตาก เพื่อใช้ในกิจการสาธารณกุศล โดยกำหนดออกรางวัลสลากการชาดการกุศลฯ วันที่ 3 มกราคม 2556 เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ เวที ร้านมัจฉากาชาด ในงานตากสินมหาราชานุสรณ์จังหวัดตาก โดยสามารถติดต่อขอซื้อด้วยตนเองได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลแม่สอด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

จึงประชาสัมพันธ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน

Credit รพ.แม่สอด

จ.ตาก หนาวจัด ประกาศพื้นที่ประสบภัย2อำเภอ

ผวจ.ตาก ประกาศภัยหนาว หลังอุณภูมิลดต่ำกว่า 15 องศา มาแล้ว 3 วัน วันนี้ 12.6 องศา ชาวเขาต้องผิงไฟ นั่งตากแดดคลายหนาว ...
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 56 มีรายงานว่า ขณะนี้ สภาวะอากาศที่หนาวเหน็บในหลายพื้นที่จังหวัดตาก อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง มีหมอกลงจัดในถนนระหว่างอำเภอทุกสาย ทัศนวิสัยสั้นมาก โดยในพื้นที่ อ.อุ้มผาง อุณหภูมิเช้านี้ วัดได้ 14 องศาเซลเซียส และที่ดอยมูเซอ อ.เมืองตาก วัดได้ต่ำสุดเช้านี้ 12.6 องศาเซลเซียส  ซึ่งใน 2 อำเภอ ขณะนี้อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส มาเกิน 3 วันแล้ว ซึ่ง นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว และสั่งการสำนักงานบรรเทาป้องกันและสาธารณภัยจังหวัด เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ทั้งด้านเสื้อผ้า และผ้าห่มกันหนาวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ดอยสูง ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวเขาและยากจน ที่ต้องต่อสู่ความหนาวด้วยการก่อกองไฟผิง หรือต้องออกมานั่งตากแดดเพื่อไล่ความหนาวเย็น.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์

“เมกา โฮม” เปิดสาขา 2 แม่สอด มั่นใจครองเจ้าตลาดสินค้าบ้าน วัสดุก่อสร้างส่ง-ปลีก ฝั่งชายแดนไทย — พม่า


นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า จำกัด นำทีมคณะผู้บริหาร บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ เปิดตัวเมกาโฮม ศูนย์รวมสินค้าของใช้ในบ้าน และวัสดุก่อสร้างทั้งส่งและปลีก สาขาแม่สอด จังหวัดตาก โดยได้รับความสนใจจากนักธุรกิจชั้นนำจากประเทศพม่าเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สำหรับการเปิดสาขาแห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือเป็นจังหวัดที่ติดด่านชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศพม่า นับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่บริษัทได้ตั้งกลยุทธ์ขยายสาขาตามชายแดน พร้อมมั่นใจสามารถตอบสนองและเข้าถึงความต้องการของผู้รับเหมา ช่างในแต่ละประเภท เจ้าของโครงการ เจ้าของบ้าน ร้านค้าช่วง และร้านค้าย่อย ได้อย่างครบครัน

ชาวไทยใหญ่ อ.แม่สอด จ.ตาก จัดประเพณีตลาดสวรรค์

พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่เดิมเป็นชุมชนที่เกิดจากการอยู่รวมกันของชาวไทยใหญ่ (เงี้ยว) กระเหรี่ยงและพม่ามาก่อน โดยเฉพาะชาวไทยใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านริมชายแดนไทยพม่า อันได้แก่ ชุมชนวัดหลวง ชุมชนแม่ตาวเมย (ท่าสายลวด) ชุมชนบ้านท่าอาจ ชุมชนบ้านวังตะเคียง และชุมชนบ้านหนองกิ่งฟ้า เป็นต้น ซึ่งชาวไทยใหญ่ได้มีประเพณีและวัฒนธรรมที่สำคัญๆ หลายประเพณี ประเพณีของชาวไทยใหญ่ที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจ คือประเพณีตลาดสวรรค์ ที่ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะทำการศึกษา

ถวายผ้ากฐิน"วัดวินเส็งตอร์ยะ" เชื่อมสัมพันธ์ไทย-พม่า-มอญ

เมื่อเร็วๆ นี้ นางนรีพรรณ สุวรรณกิตติ ผอ.สำนักพัฒนาพฤตินิสัย กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมกับ นายคำ จันทร์บุญ ผู้ประสานงานไทยเชื่อม สัมพันธ์ชาวพม่า และคณะกรรมการจากกรมราชทัณฑ์, กรรมการจากประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ นำผ้าพระกฐินพระราชทาน จากท่าอากาศยานอำเภอแม่สอด จ.ตาก เดินทางไปยังท่าอากาศยานเมืองมะละแหม่ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อถวายวัดวินเส็งตอร์ยะ เมืองมะละแหม่ง อันเป็นวัดที่ประดิษฐานพระนอนองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำเงินรายได้สมทบทุนสร้างพระนอนองค์ใหญ่ 1 องค์ คู่กับองค์เดิม



มีประชาชนชาวพม่าและชาวมอญจำนวนกว่า 3,000 คน ให้การต้อนรับระหว่างเดินเข้าศาลาการเปรียญ ประชาชนแต่งกายในชุดพื้นเมืองพม่าและชุดชาวมอญ



จากนั้นผ้าพระกฐินพระราชทานอัญเชิญเข้ามาในศาลาการเปรียญ จากนั้นประกอบพิธีทางศาสนา ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน พร้อมกันนั้นเจ้าภาพมอบเรือสุพรรณหงส์ขนาด 1.50 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้กับวัด พร้อมถวายเครื่องไทยทานเป็นอันเสร็จพิธี 



สำหรับปัจจัยจากการร่วมทำบุญ มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,000,000 บาท 



ด้านนางนรีพรรณ เปิดเผยว่า เป็นความประสงค์หลักสำคัญในการถวายผ้าพระกฐินในครั้งนี้ เพื่อนำประชาชนคนไทยร่วมเดินทางสร้างพระนอนองค์ใหญ่ เพื่อเป็นกุศลใหญ่ถวายให้กับพระเจ้าแผ่นดินของชาวไทย และยังมีวัตถุประสงค์เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของประชาชนชาวไทยกับ ประเทศเพื่อนบ้าน คือ ชาวมอญในพม่า อีกทั้งเชื่อมชาวพม่าในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางมาร่วมทำบุญครั้งนี้ด้วย



"ประชาชนทั้งชาวไทย ชาวพม่าและชาวมอญจากที่เคยมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่แล้ว จะเพิ่มความรักใคร่สมัครสมานสามัคคีกันมากขึ้น ที่วัดแห่งนี้เปิดกว้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยว คือ มีพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (World largest reclining Buddha) โดยวัดวินเส็งตอร์ยะ อยู่ห่างจากเมืองมะละแหม่งไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร โดยพระนอนมีความยาวประมาณ 170 เมตร ความสูงราวตึก 5 ชั้น หรือสูงประมาณ 110 ฟุต ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ประกอบด้วย รูปปูนปั้นที่แสดงถึงพุทธประวัติ หลักธรรมคำสอนต่างๆ ของพระพุทธศาสนา เช่น เรื่องนรก-สวรรค์ ผลแห่งกรรม และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากวัดพระนอนองค์ใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ให้คนไทยเข้ามา กราบสักการะทำบุญและเที่ยวชม" นางนรีพรรณกล่าว

ฆาตกรเหี้ยมฆ่าสาว19

ฆาตกรโครตเหี้ยม จับสาว 19 ใส่กุญแจมือ ปืนยิงหัว-หน้าอก 6 นัดดับสยอง ก่อนยัดศพใส่กระสอบโยนทิ้งแม่น้ำปิง ตั้งชนวนเหตุมาจากเรื่องชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว ตร.ตั้ง 4 ทีมเร่งคลี่คลายคดี อีกรายหนุ่มนิรนามถูกฆ่าโหดมีดทำครัวปาดคอเกือบขาด ทิ้งศพริมถนน สอบเจ้าของบ้านใกล้ที่พบศพเป็น จนท.เรือนจำและลูกชายปัดไม่รู้จักผู้ตาย พบพิรุธเสื้อเปื้อนเลือด แถมพบมีดลักษณะแบบเดียวกันในบ้าน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 พ.ย.56 มีรายงานว่า ร.ต.อ.จิตติพงศ์ จินาเคียน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตาก จ.ตาก รับแจ้งเหตุจากชาวบ้าน ว่า พบศพผู้เสียชีวิต ถูกฆ่ายัดกระสอบมาทิ้ง แม่น้ำปิง บริเวณท่าน้ำ หน้าวัดท่าช้าง ต.ไม้งาม อ.เมือง จ.ตาก จึงเดินทางพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพล ภู่พูนทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองตาก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นท่าน้ำ ที่ ชาวบ้านได้ทำไว้เพื่อเป็นท่าน้ำสำหรับลอยกระทง ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบศพ น.ส.พัชรี เครือมี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 หมู่ 3 ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก สภาพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ลายจุด ไม่สวมเสื้อ มีรองเท้าแตะสีแดง ที่ข้อมือขวามีกุญแจมือล็อกอยู่ จากการตรวจสอบ ผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด และที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนฝังใน ห่อด้วยผ้าห่มสีแดง ยัดใส่ถุงดำและกระสอบอีกชั้นหนึ่ง สภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมง
สอบสวนคาดว่า คนร้ายได้นำศพมาทิ้งไว้ในช่วงกลางดึกเพื่ออำพรางคดี เพราะช่วงหัวค่ำ ที่ผ่านมาจะมีชาวบ้านมาลอยกระทงไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่งรุ่งเช้าวันนี้จึงมีคนมาพบศพ เกยตื้น เพราะระดับน้ำบริเวณดังกล่าวไม่ลึก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งชุดสืบสวน จำนวน 4 ชุด เร่งคลี่คลายคดี เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ตายเคยถูกจับในคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่จะทำการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนต่อไป
อีกราย ร.ต.ท.สายัณต์ เทียบธรรม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เมื่อเวลา 09.30 น. พบศพชายไทยใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม กางเกงขาสั้นสีฟ้า นอนเสียชีวิตสยดสยองในซอยรัฐกิจไคลคลาซอย 8 ในหมู่บ้านสันติภาพ ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุทธิชัย บุณนาค รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ดทราบ และร่วมเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบสวนสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองร้อยเอ็ด และ น.พ.บดินทร์ ผดุงสัตย์ แพทย์เวร รพ.ร้อยเอ็ด ร่วมตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพยังที่เกิดเหตุ
พบศพผู้เสียชีวิตนอนหงายเสียชีวิตที่ทางเข้าบ้านบ้านเลขที่ 20 ต.รอบเมือง ที่เป็นบ้านของนายอดุลย์ ตาลเอี่ยม จนท.ราชฑัณต์ชำนาญงาน เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยผู้ตายนอนหงายเสียชีวิต ในลักษณะลืมตา และที่ลำคอโดนของมีคมปาดจนเกือบขาด จนเลือดตามใบหน้า มีไหลโชกเสื้อที่สรวมอยู่และนองพื้น และลิ่มเลือดยังไม่แห้ง พร้อมกับพบมีดทำครัวยี่ห้อ kiwi เปื้อนเลือดตกอยู่ข้างศพ พร้อมกับรองเท้าของผู้ตายตกอยู่ข้างศพ ค้นตามตัวไม่พบร่องรอยการทำลายร่างกายอื่น และไม่พบหลักฐานความเป็นมาของผู้ตาย
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ติดตามตัวนายอดุลย์ ตาลเอี่ยม จนท.ราชฑัณต์ชำนาญงาน เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดเจ้าของบ้านที่ไปทำงานตั้งแต่เช้ามา เพื่อสอบสวนปากคำในฐานะใกล้ที่เกิดเหตุ พร้อมกับเรียกนายพัชระ ตาลเอี่ยม ลูกชายเจ้าของบ้านพร้อมเพื่อคือ นายอภินันท์ อังกาบ ที่นอนอยู่ในบ้านออกมาดูศพผู้เสียชีวิต เพื่อสืบสวนหาเบาะแสของผู้ตาย ปรากฏว่าทั้ง 3 ต่างให้การปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร แต่จากการสอบสวนและตรวจสอบในบ้านพบว่า พบกระดาษเช็ดคราบเลือดทิ้งในถังขยะภายในห้องน้ำ และพบรอยเลือดหยดอยู่หน้าห้องน้ำ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนอกจากนั้นยังพบว่าที่เสื้อของเจ้าของบ้านตรงไหล่ซ้ายและข้างหลังที่คล้ายรอยคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เป็นร่องรอยอันเกิดจากการที่ตนเองทาสีรั้วในเรือนจำนานมาแล้ว และนอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบมีดทำครัว ยี่ห้อเดียวกับที่พบเปื้อนเลือดทิ้งอยู่ข้างผู้ตาย วางอยู่ในโรงเก็บรถของเจ้าของบ้านด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนปากคำเจ้าของบ้านให้การว่าตนเองไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดและไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร โดยอ้างว่าตนและภรรยาออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ 08.00 น. มีแต่ลูกชายกะเพื่อนนอนอยู่ในบ้าน .ตอนออกไปก็ไม่พบว่ามีใครตายอยู่หน้าบ้าน จนกระทั่งมีคนมาพบศพและจนท.ตำรวจตามตนมาดูจึงทราบว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป โดย พ.ต.อ.สุทธิชัย บุณนาค รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่าในเบื้องต้น จะต้องค้นหาความเป็นมาของผู้ตายก่อน ซึ่งมีเบาะแสเดียวคือนิ้วกลางมือขวาพิการ ที่ต้องสืบหาความเป็นมาก่อนแล้ว จึงจะขยายผลหาสาเหตุการถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตได้ต่อไปส่วนใครจะเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นต้องดูที่พยานหลักฐานที่พบจะเพียงพอหรือไม่

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คดีเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ หมอนิ่ม คดีสะเทือนขวัญ บทสรุปที่คาใจ

ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย  แต่ทั้งนี้ใครฆ่าใคร  ก็คงรู้กันแค่เพียงคนฆ่า  กับคนตาย  อีกทั้งคนตายก็ให้การอะไรไม่ได้แล้ว  สงสารแต่ลูกของพวกเขาที่ต้องมารับรู้เรื่องราวแบบนี้
หมอนิ่ม เปิดใจเพิ่งรู้ไม่กี่วันนี้ว่าแม่จ้างวานฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ บอกเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ เห็นตนถูกสามีทำร้ายมาตลอด ยันไม่เคยคบชู้ ส่วนคดียังบอกไม่ได้ว่า ยอมรับหรือปฏิเสธ
จากคดีลอบยิง เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย จนเสียชีวิตนั้น ล่าสุด แม่หมอนิ่ม นิธิวดี ภู่เจริญยศ สารภาพแล้วว่าเป็นผู้จ้างวานมือปืนฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เหตุแค้นที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ซ้อมลูกสาวตนเอง และตัดสินใจเด็ดขาดตอนลูกสาวแท้งลูกคนที่ 3 ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
ล่าสุด วานนี้ (11 พฤศจิกายน 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอนิ่ม นิธิวดี ภู่เจริญยศ ได้เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีขณะนี้ยังไม่ขอพูดถึง ยังบอกไม่ได้ว่ารับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งนี้ เมื่อรู้ว่าแม่เป็นคนบงการนั้น ตนเข้าใจแม่ เพราะตนก็เป็นแม่คนแล้วเหมือนกัน คนที่รักเราที่สุดในชีวิตคือแม่ ตนทำผิดกับแม่มาตลอด จนวันนี้แม่ต้องมาทำผิดเพราะตน เป็นเรื่องสะเทือนใจ และตนจะไม่ทำให้แม่ร้องไห้อีกในชีวิต ทุกคนมีเหตุผล อย่างลูกตนเลี้ยงมาให้โตด้วยความรัก ปัจจุบันก็ยังสอนลูกว่าพ่อเป็นคนดี แต่ตัวลูกเองก็รู้ว่าพ่อมีข้อเสียอะไร ซึ่งขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่าจะสอนเขาให้มองยังไง
นอกจากนี้ หมอนิ่มยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงบั้นปลายชีวิตถ้าแม่ต้องไปอยู่ในคุกตนคงไม่สบายใจ เพราะแม่มีโรคประจำตัวมากมาย ขึ้นอยู่กับศาลและความยุติธรรมที่แม่จะได้รับ ซึ่งก็จะรู้คำตอบอีกไม่นาน
ส่วนสาเหตุที่แม่ต้องทำแบบนี้นั้น เป็นเพราะสามีใช้ความรุนแรงกับตนมาโดยตลอดและมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย แม่เลยทนไม่ได้ แม่เจ็บกว่าเรามากเพราะเห็นเป็นประจำ ยิ่งโดยเฉพาะตอนท้องลูกคนที่ 3 เอ็กซ์ก็ทราบว่าตนท้องอยู่ แต่ก็ยังทำร้าย คนเป็นแม่จะรู้สึกอย่างไร เอ็กซ์ได้ชกที่ท้องตนหลายครั้งตอนที่ท้องอยู่ เป็นสาเหตุที่ทำให้แท้งร่วมกับสาเหตุอื่น ๆ ด้วย ตอนนี้ลูกสาวคนโตก็ยังถามหาพ่ออยู่ ตนก็บอกว่าป๊าไปอยู่บนสวรรค์เป็นเพื่อนน้องแล้ว น้องอยู่คนเดียวน้องเหงา และตนเพิ่งทราบไม่นานว่าแม่เป็นคนบงการ ตอนงานศพก็ยังไม่ทราบ เรื่องคดีตนจึงไม่ขอพูด เพราะพูดได้แค่นี้จริง ๆ  แต่ตนอยากพูดในส่วนที่ไม่เป็นความจริง คือ ตนไม่เคยกีดกันลูกไม่ให้ไปเจอบ้านพ่อแม่สามี แต่ตามปกติน้องไม่ค่อยได้ไปอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก เคยไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ไม่ได้พาลูกไปหาปู่กับย่า เพราะปู่กับย่ามาหาตลอด
เมื่อถามว่า คุณพ่อ เอ็กซ์ กล่าวว่าตั้งแต่เสร็จงานศพ หมอนิ่มไม่เคยโทรไปคุยเลยนั้น เจ้าตัวกล่าวว่า ไม่จริง ทางคุณมาณพ พ่อสามีต่างหากที่ไม่เคยโทรมาถามเลยว่าตนรู้สึกยังไง ไม่เคยถามถึงหลานเลยสักครั้ง บอกว่ารักหลานแต่ไม่เคยซื้อขนม ของเล่นให้สักอย่าง และที่มีกระแสข่าวว่าต้องการสมบัติของเอ็กซ์นั้น จริง ๆ แล้วเป็นสมบัติที่ทำร่วมกันมา ตนมีกิจการทำคลินิก เงินทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากตน ผู้ตายเป็นนักกีฬายิงปืน เป็นข้าราชการ ลองคิดดูว่าทรัพย์สินที่ได้มาใครเป็นคนหา  และที่มีข่าวว่า หมอนิ่มปันใจให้คนอื่น จนทำให้สามีหึงหวงนั้น หมอนิ่มปฏิเสธว่า ตนไม่เคยมีคนอื่น อีกทั้งแม่ของเอ็กซ์เป็นคนมาบอกตนเองว่าจะแจ้งความจับเอ็กซ์ ซึ่งถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แม่เอ็กซ์คงไม่ทำอย่างนั้น และหลักฐานรูปตนก็ยังมีอยู่ ส่วนเรื่องคบชู้ก็ไม่จริง ตนกับเอ็กซ์มีคุยกันตลอดว่าจะตั้งชื่อลูกคนนี้ว่าอะไร
เมื่อถามว่าเคยคิดแยกทางกับ เอ็กซ์ หรือไม่นั้น หมอนิ่มกล่าวว่า ไม่เคยคิด เพราะเอ็กซ์เป็นคนไม่เกรงใจใคร ไม่มีใครกล้าพูด ถ้าพูดตนอาจจะโดนหนักกว่าที่เคย แม่ก็เห็นสามีทำร้ายเราอยู่ทุกครั้ง เรื่องสะเทือนใจมากที่สุดคือเรื่องแท้งลูก ที่สำคัญสื่อที่บอกว่าสามีรักลูกมากนั้น แต่ความจริง แค่ลูกทำไม่ถูกใจ สามีก็ใช้ไม้ตีลูกจนหักทั้งที่ลูกเพิ่งอายุ 3 ขวบ คนที่มีภาวะจิตใจปกติจะทำแบบนี้ไหม แต่ก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อย่าพูดถึงเลย
นอกจากนี้ แพทย์หญิงนิธิวดี ยังฝากให้เรื่องของครอบครัวตนเองเป็นอุทาหรณ์แก่สังคมว่า อยากจะขอให้ทุกคนหยุดใช้ความรุนแรงในครอบครัว ผู้ชายมีกำลังแต่อย่าทำกับผู้หญิงอย่างนี้อีกเลย เรื่องยาเสพติดด้วย ถ้าเอ็กซ์ไม่ติดยาคงจะไม่ทำแบบนี้ ครอบครัวของตนพังแล้ว ครอบครัวตนเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลาย ๆ คนได้ไหม อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีกเลย ส่วนลูกตนจะคงต้องสอนให้เขาทั้งสองคนรู้จักคำว่ารัก และยังให้เขารักพ่อ ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ดี เราก็ต้องชี้ให้เขาทราบว่าสิ่งที่ไม่ดีคืออะไร
และสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ ตนเข้าใจแล้วว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ตนทำให้คุณแม่ร้องไห้มาตลอด 6 ปี และยังทำให้แม่ต้องทำผิด ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอรับผิดและรับโทษแทนคุณแม่ และในวันนี้ตนคงไม่กล้าทำให้คุณแม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว
 
Credit:  kapook.com

ปิดคดีเขาพระวิหาร เรื่องเขตแดน ศาลโลกให้ไทย-เขมร เจรจากันเอง

   หลังจากที่ยืดเยื้อมานาน  สำหรับกรณีคดีเขาพระวิหาร  ล่าสุดศาลโลกก็ได้มีคำสั่งตัดสินอย่างเป็นทางการแล้ว  โดยทั้งสองฝ่ายรับรู้พร้อมกัน
          ศาลโลกยืนตามคำพิพากษาคดีเขาพระวิหารปี 2505 ให้กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร ส่วนเขตแดนให้ไปตกลงกันเอง 2 ประเทศโดยมี UNESCO ดูแล ขณะที่ทูตวีรชัย ชี้ กัมพูชาไม่ได้ในสิ่งที่ร้องขอต่อศาล
         วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2556)  เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์คณะตุลาการ ศาลโลก ได้ออกนั่งบนบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีเขาพระวิหารแล้ว โดยคณะผู้พิพากษาเริ่มต้นด้วยการกล่าวแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ของไทย
         ซึ่งหลังจากนั้น ประธานศาลโลก ได้เริ่มต้นอ่านคำพิพากษาคดีที่กัมพูชาได้ยื่นร้องขอให้ศาลโลกตีความคดีดังกล่าวในปี 2554 ตามธรรมนูญศาลโลก ข้อ 60 เรื่องข้อพิพาทในพื้นที่ใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร โดยประธานศาลโลก ระบุว่า ศาลโลกมีมติรับคำร้องขอของกัมพูชาที่จะตีความคำพิพากษาปี 2505 ตามรัฐธรรมนูญศาลโลก ข้อ 60 โดยให้พิจารณาตามแนวปฏิบัติที่ผ่านมา ประกอบกับพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย ซึ่งทำให้ศาลโลก ไม่อาจตีความเกินคำพิพากษาปี 2505 ได้
         และเมื่อย้อนกลับไปดูคำตัดสินปี 2505 พบว่า กรณีนี้เป็นประเด็นเขตอำนาจอธิปไตยมากกว่าการกำหนดเขตแดน โดยที่ศาลโลกมีอำนาจรับพิจารณาเฉพาะข้อที่เป็นเหตุที่ไม่ใช่บทปฏิบัติการ และไม่ได้มีแนบในแผนที่ในคำพิพากษาปี 2505 ประกอบกับการนำเหตุการณ์ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้เดินทางเยือนปราสาทพระวิหาร โดยมีทางการฝรั่งเศสให้การต้อนรับ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการยอมรับดินแดนทางอ้อม อีกทั้ง การที่คู่ความทั้งสองได้ยอมรับแผนที่ภาคผนวก 1 ทำให้แผนที่ภาคผนวก 1 ถูกบรรจุในสนธิสัญญา สำหรับการที่ขอตีความครั้งนี้ กัมพูชาระบุว่า ขอบเขตพื้นที่พิพาทเล็กมาก ขณะที่ศาลโลกเห็นพ้องว่าพื้นที่พิพาทนี้ก็เล็กมากเช่นกัน
         อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาปี 2505 ศาลไม่มีหน้าที่ปักปันเขตแดน เนื่องจากเห็นว่า เป็นเรื่องการกำหนดอธิปไตยมากกว่ากำหนดดินแดน ดังนั้น ศาลโลกจึงเห็นว่า สมควรให้ไทยและกัมพูชาดำเนินการหารือกันเอง เพื่อร่วมรักษามรดกโลกแห่งนี้ให้คงไว้
         ทั้งนี้ หลังจากศาลโลกได้อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น จากนั้น ในเวลา 17.35 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้แถลงข่าวว่า ทั้งสองฝ่ายรู้สึกพอใจกับคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลังจากนี้จะไปหารือกับกัมพูชาในคณะกรรมาธิการร่วมฯ ต่อไป พร้อมกับให้ นายวีระชัย พลาศัย ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความของฝ่ายไทยได้ชี้แจงต่อ
         โดย นายวีระชัย พลาศัย ทูตไทยที่เป็นตัวแทนไปสู้คดีเขาพระวิหาร ได้กล่าวว่า ศาลได้ตัดสินว่ามีอำนาจพิจารณาตีความตามคำร้องของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม กัมพูชาไม่ได้รับในสิ่งที่มาร้องขอต่อศาล คือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งพื้นที่ภูมะเขือ กัมพูชาไม่ได้ เพราะศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน แต่ได้เน้นว่าเป็นพื้นที่เล็กมาก ๆ ซึ่งขณะนี้กำลังคำนวณอยู่ ส่วนพื้นที่ 1 ต่อ 2 แสนตารางกิโลเมตรที่เป็นปัญหากันอยู่นั้น ศาลไม่ได้ตัดสินว่าผูกพันกับไทย ดังนั้นถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมาก ๆ
         นอกจากนี้ นายวีระชัย ยังระบุด้วยว่า ศาลโลกได้แนะนำให้ฝ่ายไทยและกัมพูชาร่วมกันดูแลเขาพระวิหารในฐานะที่เป็นมรดกโลก

Credit:  Kapook.com